Tuesday, September 17, 2013

วิธีการอบซาวน่าอย่างถูกวิธี มีขั้นตอนดังนี้


วิธีการอบซาวน่ามีหลายวิธี และหลายขั้นตอน ซึ่งเป็นต้นตำรับปฏิบัติมาแต่ดั้งเดิมของชาวฟินแลนด์ มีขั้นตอนที่น่าสนใจหลายอย่าง โดยเฉพาะคุณค่าของการอบตัวและทำสปา ด้วยห้องอบซาวน่า ปัจจุบันการอบซาวน่ามีราคาแพง และจุดให้บริการก็ไม่มากนัก เรามาดูวิธีการอบซาวน่าด้วยตนเอง เพื่อประยุกต์วิธีการอบซาวน่าโดยทำเองที่บ้าน เพื่อความประหยัด และเพื่อสุขภาพที่ดี มาดูขั้นตอนแบบโบราณกันว่าเป็นอย่างไร
1. การออกเหงื่อ  เป็นวิธีขับพิษจากร่างกาย และช่วยเพิ่มกำลังวังชา อุณหภูมิเริ่มจากอุ่นๆ ที่ประมาณ 60 องศาเซลเซียส  จากนั้นจะสูงขึ้นไปอีก สมาคมเซาน่าแห่งฟินแลนด์ แนะนำอุณหภูมิที่ 80-90 องศาเซลเซียส ทั้งนี้ความชื้นที่มีไม่มากนักช่วยให้ผู้อาบนั่งอยู่ได้นาน  สำหรับคนทั่วไป คือ 3-5 นาที นอกจากคนที่เคยชินแล้วไม่ควรเกิน 10 นาที ห้องยิ่งร้อนเหงื่อก็ยิ่งออกดี ให้นั่งหรือนอนอย่างสงบที่แคร่ชั้นบน ถ้าห้องเซาน่ากว้างขวางแบบดั้งเดิมจะวางขาพาดไว้ให้สูงเกือบติดเพดานห้อง ปลายเท้าก็จะได้รับอุณหภูมิสูงที่สุด นับเป็นความสบายประการหนึ่งของการอบซาวน่า  สักพักหนึ่งให้พลิกนอนคว่ำเพื่อได้รับความร้อนให้ทั่วถึง  ไม่แนะนำให้ใช้ท่านั่ง เพราะศีรษะจะร้อนเกินไป และไม่แนะนำให้ชโลมเส้นผมจนเปียกโชกหรือให้ผ้าเปียกปกศีรษะ เพราะความเปียกกลับจะนำความร้อนได้มาก เมื่อศีรษะร้อนจะทนนั่งไม่ได้นาน เมื่อออกเหงื่อในห้องร้อนและแห้งพอสมควรแล้ว บางคนก็อาจจะสลับด้วยการทำร่างกายให้เย็น คือ โดดลงในน้ำเยือกแข็งที่ทะเลสาปหรืออาบน้ำเย็น

2. การเพิ่มความชื้น การอบซาวน่าที่ทำให้ร้อนจนได้ที่ ไม่มีความจำเป็นต้องพรมน้ำลงบนก้อนหินมากนัก พึงจำไว้อย่างหนึ่งว่ายิ่งพรมน้ำมาก ผู้อาบยิ่งทนความร้อนไม่ได้ดี และคนที่อ่อนแอมากกว่าจะทนไม่ได้ก่อน จึงมีธรรมเนียมของชาวฟินแลนด์ ถ้าอบซาวน่าอยู่ด้วยกันหลายคน ใครจะพรมน้ำจะปรับตามสภาพที่พอทนได้ของผู้ที่อ่อนแอกว่า

3. การฟาดตัวด้วยกิ่งเบิร์ซ  กิ่งเบิร์ซ เป็นเครื่องหมายของซาวน่าแบบฉบับ ให้ใช้กิ่งเบิร์ชจุ่มน้ำวางสัมผัสกับหินร้อน จะเกิดควันจางๆที่ให้ความหอมไปทั่วห้อง  จากนั้นฟาดไปทั่วทุกส่วนของร่างกายไม่เว้นแม้แต่ฝ่าเท้า เลือดจะมาเลี้ยงผิวกายได้ดี ช่วยการขับพิษทางผิวหนังได้ดียิ่งขึ้น

4. การฟอกสบู่  ถ้าห้องอบซาวน่าแบบฉบับที่มีขนาดกว้างให้ลงจากแคร่นอนมาฟอกตัวที่พื้นชั้นล่างของซาวน่า จังหวะนี้ไม่ต้องการความร้อนสูง ให้ปิดประตูห้องอบซาวน่า ห้องซาวน่าใหญ่ๆที่มีเพดานสูง จะยังคงรักษาความร้อนไว้ได้สำหรับการอาบเหงื่อที่แคร่ชั้นบน ขณะที่กิจกรรมล้างตัวฟอกสบู่กระทำได้ที่พื้นชั้นล่าง แต่ถ้าใช้ตู้ซาวน่าขนาดเล็ก ก็ต้องไปอาบน้ำฟอกสบู่อีกห้องหนึ่ง นอนอบซาวน่า
สถานซาวน่าของชุมชนจะมีพนักงานหญิงคอยช่วยบริการฟอกล้างร่างกายให้ผู้อาบโดยไม่เกี่ยงเพศและวัย ถ้าเป็นซาวน่าส่วนตัวซึ่งไม่มีพนักงานบริการ จะถือเป็นมารยาทของผู้อาบที่จะช่วยฟอกหลังให้แก่กันในระหว่างผู้ร่วมอาบ
 วิธีฟอกสบู่ในซาวน่าก็มีลักษณะเฉพาะ คือ ใช้สบู่ก้อนเล็กๆ ใส่ลงในถังไม้ที่มีน้ำร้อนๆ คล้ายช่างตัดผมผสมสบู่สำหรับโกนหนวด จากนั้นใช้น้ำสบู่ฟอกไปทั่วร่างกายด้วย และฟาดกิ่งเบิร์ซอีก แล้วจึงล้างสบู่ออก วิธีนี้จะให้กลิ่นหอมของเบิร์ซยังคงติดผิวกายของผู้อาบ สร้างความสดชื่นไปตลอดวันรุ่งขึ้น

5. การราดน้ำ   ล้างสบู่ออกให้หมดด้วยน้ำอุ่น อาจอาบน้ำฝักบัวก็ได้

6. การทำให้ตัวเย็น   ถ้าต้องการจะเลิกอาบแล้ว หลังราดน้ำก็เป็นกระบวนการทำตัวให้เย็น แต่ถ้าไม่อยากเลิกก็อาจขึ้นไปที่แคร่นอนให้ออกเหงื่ออีกวาระหนึ่ง ซาวน่าในชนบทมีวิธีทำให้ตัวเย็นอย่างธรรมชาติที่สุด คือ โดดลงในทะเลสาปเยือกแข็ง หรือคลุกตัวในกองหิมะในสภาพเปลือยเปล่า การอบตัวให้ร้อนสลับด้วยการโดดลงในน้ำเยือกแข็งจะทำกี่ครั้งก็ได้ คนที่ชอบมากๆ อาจทำถึง 5 ครั้ง ในการซาวน่าเที่ยวหนึ่งๆ

7. การรอให้แห้ง  ควรปล่อยตัวให้แห้งไปเองตามธรรมชาติ ไม่นิยมซับด้วยผ้าขนหนู บ่อยครั้งที่ห้องแต่ตัวอาจร้อนและชื้นเกินไป ผิวกายจะไม่แห้งซักที แต่กลับเหงื่อออก การรอให้ผิวแห้งในที่กลางแจ้งจึงมักเป็นวิธีที่ดีที่สุด
       สถานซาวน่าสาธารณะในเมือง อาจไม่มีสถานที่กลางแจ้งเพื่อจุ่มตัวในบ่อน้ำแข็งและนั่งเปลือยเปล่าเพื่อรอให้แห้ง อาจใช้วิธีอาบน้ำเย็นแล้วค่อยแต่งตัว

8. การพักผ่อนและเก็บรับความสดชื่น  แม้จะเป็นขั้นตอนสุดท้าย แต่ก็ถือเป็นส่วนสำคัญของซาวน่า ผู้อาบซาวน่าไม่เพียงนอนผ่อนคลายบนแคร่ร้อนขณะออกเหงื่อเท่านั้น ภายหลังซาวน่าก็ควรนอนพักผ่อนสัก 15 นาที ในพื้นที่อีกส่วนของซาวน่า ให้นอนอยู่อย่างสงบ ไม่คิดไม่พูด เพียงปล่อยใจปล่อยกายของตนให้อิ่มเอิบไปกับสิ่งรอบข้าง จากนั้นถ้ารู้สึกกระหายน้ำ ก็ให้ดื่มน้ำตามที่ปรารถนา หลังซาวน่า ชาวฟินมักกินอาหารมื้ออร่อยร่วมกัน